ไม่อยากทำให้ "คนที่รักคุณต้องเสียใจ" เลิกทำสิ่งต่อไปนี้

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากทำให้คนที่รักคุณต้องเสียใจเลิกทำ 4 ประเด็นดังนี้

1. การนำ “สิ่งที่ไม่ดี เป็นอันตราย ยัดใส่ตัวคุณเอง”

               ประเด็นแรกโอ๊ยยยยย เราก็จะบอกว่า สิ่งนี้ใครๆก็รู้ (จะมาบอกทำไมเนี่ย) แต่ทำไมละครับ คนจำนวนไม่น้อยที่เขายังทำกันอยู่ เป็นเพราะอะไรละ? หึหึ (ลองถามและตอบตัวเองดูน่ะ !) ไม่ว่าจะเป็น เหล้าแอลกอฮอล์ทุกชนิด บุหรี่ ยาเสพติดทุกชนิด หรือสิ่งต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโทษต่อตัวเราเอง แม้กระทั่งความคิดที่ไม่ดี ก็ไม่ควรที่จะยัดใส่ตัวเราเอง (เพราะเราคิดยังไง เราก็จะกลายเป็นคนแบบนั้น เช่น คิดลบบ่อยๆ คิดร้ายบ่อยๆ บางทีก็เป็นโรคซึมเศร้า หวาดระแวงอีก)

2. การนำตัวเองไปสู่ “วงจร หนี้ (ดอกเบี้ย)”

                บางคนก็จะบอกว่า ธุรกิจคือการลงทุน ณ ตอนนี้ไม่มีทุน ก็ต้องไปกู้เงิน ไปกู้ธนาคารก็ไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าคุณจะผ่อนเงินให้เขาได้ เช่นถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนก็จะเอาสลิปเงินเดือน มาเป็นหลักประกันได้ แต่ถ้าไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือน หรือไม่มีหลักประกันอื่นๆ ก็กู้เงินจากธนาคารไม่ได้ ทำให้ต้องไปกู้นอกระบบ ยิ่งลำบากใหญ่เข้าไปอีก เนื่องจาก การกู้นอกระบบนี้ จะมีอัตราดอกเบี้ยสูง บางครั้งที่ผ่อนทุกๆวัน ทุกๆงวด เป็นแค่เพียงการผ่อนดอกเบี้ย ไม่ได้สะกิดเงินต้นเลย ยิ่งนานวัน คุณก็ผ่อนไม่ไหว ซึ่งก็จะเกิดปัญหาการทวงหนี้โหดตามมา อย่างที่เราเห็นในข่าว แทบจะทุกวัน

3. การนำตัวเองไปเลียนแบบกระทำที่แย่ๆ ของ “ดารา นักร้อง คนที่มีชื่อเสียง หรือกลุ่มบางกลุ่มที่เราชื่นชอบ”

               บุคคลเหล่านี้อาจจะเป็น ไอดอล หรือ ฮีโร่ในดวงใจของคุณ แต่คุณต้องคิดเสมอว่า สิ่งที่เขาทำนั่น มันขัดแย้งกับความถูกต้องหรือไม่  ไม่ใช่ผมจะกล่าวหาว่า บุคคลเหล่านั้นทำไม่ดี ไม่น่าเป็นบุคคลตัวอย่างน่ะ แต่สิ่งที่ดีๆ เราก็นำมาใช้ แต่สิ่งไหนที่ไม่ดี ก็ไม่ควรเก็บมาเป็นแบบอย่าง อย่างเช่น เน็ตไอดอล    ที่ออกมาจากคุก ออกรายการดัง แล้วให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองผ่านร้อนผ่านหนาว ลองนู้น ลองนี่ ปล้นชาวงบ้าน แล้วต้องเข้ามาอยู่ในคุก อะไรประมาณนี้ เด็กบางคนชอบ และอาจจะทำตาม แต่เราทุกคน ก็รู้ดีในสิ่งที่เขาทำนั้น ไม่ถูกต้องดังนั้น ก็ควรที่จะคิดให้เยอะๆ นะครับ ก่อนจะเอาใครเป็นไอดอล( ไม่ใช่ผมจะบอกว่าคนที่ออกจากคุก จะเป็นคนไม่ดีน่ะ คนที่ออกมาเป็นคนดีก็เยอะ แต่ต้องดู และวิเคราะห์กันหน่อย )

4. การนำตัวเองไปสู่ “การลักเล็กขโมยน้อย”

              ในทุกวันนี้ เศรษฐกิจอาจจะไม่ดี คนบางคนอาจเกิดความคิดที่ว่า ฉันต้องกินต้องจ่าย แต่ไม่มีเงิน ทำไงดี ก็เลยไปลักขโมย แรกๆ อาจจะเป็นของเล็กๆ น้อยๆ แต่พอขโมยได้บ่อยขึ้น คงคิดว่า ถ้าอยากจะรวยต้อง ขโมยของที่มีราคาแพงกว่านี้ แต่เขาลืมคิดไปว่า โชคชะตาไม่ได้เป็นของเขาเสมอไป เพราะเขาทำให้คนอื่นเดือดร้อน ดังนั้น คนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกขโมยมา เขาก็ไม่นิ่งอยู่เฉย ก็แจ้งตำรวจให้ตามล่าอยู่แล้ว ซึ่งคนที่ขโมยก็อาจจะถูกจับภายในครั้งแรก หรืออาจจะถูกจับตั้งแต่ ยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการด้วยซ้ำ ดังนั้นลองคิดดูว่า บางทีเราลักขโมยของไปขายได้ราคา 5 พันบาท แต่ต้องกลับมาติดคุกติดตาราง เป็น ปีๆ มันจะคุ้มกับสิ่งที่เราได้ขโมยหรือปล่าวละ

เห็นไหมละครับ 4 ประเด็นข้างต้น ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คนที่รักเรา ต้องมานั่งเสียใจกับเรา ถ้าหากเรายังกระทำในสิ่งข้างต้น บางครอบครัวทั้งที่มีปัญหามีเรื่องเดือนร้อนอยู่แล้ว แต่เราก็จะไปสร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวของเราอีก อย่างนั้นหรือ

ดังนั้นจะทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังก่อนละกานครับ ว่าจะทำให้ใครเดือดร้อนจากสิ่งที่เราได้กระทำลงไปบ้างเอาใจเขา มาใส่ใจเรา แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นเองครับ

#บทความนี้ เตือนตัวผมเองและเตือนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านครับ บางครั้งตัวเราเอง ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวเราเองเป็นอย่างไร ดังนั้นก็ควรให้คนอื่นดูตัวเราเองด้วย เพื่อที่จะได้ปรับปรุงกันต่อไปครับ